ช่องทางการติดต่อ
สาขาปุณณวิถี : 08x-xxx-xxxx
สาขาศรีนครินทร์ : 088-246-4924
Line ID: @Xdcdental (มี@ด้วย)
หากคุณกำลังจัดฟันหรือเพิ่งเริ่มต้นการจัดฟัน สิ่งหนึ่งที่ทันตแพทย์จะมอบให้คุณคือ ขี้ผึ้งจัดฟัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์เล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างมาก ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากจากการระคายเคืองที่เกิดจากเครื่องมือจัดฟัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับขี้ผึ้งจัดฟัน และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง
ขี้ผึ้งจัดฟัน เป็นวัสดุที่ผลิตจากขี้ผึ้งธรรมชาติ ขี้ผึ้งคาร์นัวบา พาราฟิน หรือไมโครคริสตัลไลน์ มีลักษณะนิ่ม สามารถปั้นเป็นรูปร่างได้ง่าย ทำหน้าที่สำคัญคือเป็นตัวกลางระหว่างเครื่องมือจัดฟันกับเนื้อเยื่อในช่องปาก ป้องกันไม่ให้เครื่องมือจัดฟันเสียดสีกับเหงือกและกระพุ้งแก้มจนเกิดแผล ปัจจุบันมีการพัฒนาให้มีกลิ่นหอม เช่น กลิ่นมิ้นต์หรือผลไม้ เพื่อให้น่าใช้มากขึ้น
การปั้นขี้ผึ้งจัดฟันให้ได้ขนาดที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ ทันตแพทย์มักแนะนำให้ปั้นเป็นก้อนขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว หรือประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เท่านั้น ไม่ควรปั้นให้ใหญ่เกินไปเพราะอาจทำให้ขี้ผึ้งจัดฟันหลุดออกจากเครื่องมือได้ง่ายเมื่อขยับริมฝีปาก ควรปั้นให้มีขนาดพอดีกับแบร็กเก็ตและฮุคของเครื่องมือจัดฟัน
การใช้ขี้ผึ้งจัดฟันอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้นด้วยการล้างมือให้สะอาดและแปรงฟันก่อนการใช้งาน จากนั้นนำขี้ผึ้งจัดฟันมาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดพอเหมาะ แล้วกดขี้ผึ้งลงบนเครื่องมือจัดฟันตรงบริเวณที่ทำให้เกิดแผลหรือการระคายเคืองในช่องปาก ควรกดให้แน่นเพื่อให้ขี้ผึ้งจัดฟันยึดติดกับเครื่องมือได้ดี
หลังจากทาขี้ผึ้งจัดฟันแล้ว ควรงดรับประทานอาหารบางประเภทที่อาจทำให้ขี้ผึ้งหลุดได้ง่าย เช่น อาหารเหนียวอย่างหมากฝรั่ง กาละแม อาหารกรอบอย่างหมูกรอบ ปาท่องโก๋ อาหารแข็งอย่างน้ำแข็ง ถั่วตัด และอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างลูกอม ช็อกโกแลต นอกจากนี้ ควรระวังการดื่มเครื่องดื่มร้อนจัดเพราะอาจทำให้ขี้ผึ้งจัดฟันอ่อนตัวและหลุดออกมาได้
ไม่ต้องกังวลหากเผลอกลืนขี้ผึ้งจัดฟันลงไป เพราะเป็นวัสดุที่ออกแบบมาให้ปลอดภัยต่อร่างกาย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติโดยไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม ควรซื้อขี้ผึ้งจัดฟันจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพราะหากเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมที่ทำจากพลาสติกหรือสารอื่นที่ไม่ปลอดภัย อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบย่อยอาหารได้
การไม่ใช้ขี้ผึ้งจัดฟันอาจไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง แต่จะส่งผลให้เกิดความไม่สบายและแผลในช่องปากได้ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันมีส่วนประกอบที่แหลมคม เช่น ลวด แบร็กเก็ต หรือฮุค สามารถเสียดสีกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากจนเกิดเป็นแผลหรือรอยถลอกได้ แผลเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด ลำบากในการพูด รับประทานอาหาร และอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้หากไม่ดูแลให้ดี
ควรเปลี่ยนขี้ผึ้งจัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารและแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว เพราะขี้ผึ้งจัดฟันที่ใช้แล้วจะมีเชื้อแบคทีเรียและเศษอาหารสะสมอยู่ อย่างไรก็ตาม หากไม่สะดวกเปลี่ยนทุกครั้ง ไม่ควรใช้ขี้ผึ้งจัดฟันก้อนเดิมนานเกิน 2 วัน เพราะอาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและเศษอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาช่องปากอื่นๆ เช่น ฟันผุหรือเหงือกอักเสบได้
หากขี้ผึ้งจัดฟันหมดและยังไม่สามารถหาซื้อได้ทันที สามารถใช้สำลีชุบน้ำสะอาดแปะบนเครื่องมือจัดฟันบริเวณที่ระคายเคืองเป็นการแก้ไขชั่วคราวได้ แต่วิธีนี้ไม่ควรใช้เป็นเวลานานเพราะสำลีไม่สามารถยึดติดกับเครื่องมือได้ดีเท่าขี้ผึ้งจัดฟัน และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายปากเวลาพูดหรือขยับริมฝีปาก นอกจากนี้ ควรรีบหาซื้อขี้ผึ้งจัดฟันใหม่โดยเร็ว ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปหรือคลินิกทันตกรรม
การใช้ขี้ผึ้งจัดฟันอย่างถูกวิธีเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างการจัดฟัน ที่ XDC Dental Clinic เรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำเรื่องการใช้ขี้ผึ้งจัดฟันและการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและมาตรฐานการรักษาระดับสากล AACI จากสหรัฐอเมริกา เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นจัดฟันไปจนถึงการได้รอยยิ้มที่สวยงาม นัดหมายปรึกษากับเราได้ทั้งที่สาขาปุณณวิถี และสาขาศรีนครินทร์ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและรอยยิ้มที่สวยงามของคุณ
XDC Dental มอบบริการทันตกรรมครบวงจร ดูแลสุขภาพช่องปากของคุณตั้งแต่การตรวจสุขภาพฟันไปจนถึงการรักษาเฉพาะทาง เพื่อรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน